วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการปัญหาทะเลาะกันของวัยรุ่น

หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
 เมื่อเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของนักเรียน/นักศึกษา หรือ มีการก่อเหตุทำร้ายกันของนักเรียนอาชีวศึกษาเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ สังคมหรือผู้รับผิดชอบก็มักจะมาออกมาแสดงความคิดเห็น หรือกระตือรือร้นกันพักหนึ่ง มีมาตรการในการป้องกันการแก้ไข และการฟื้นฟู มากมาย แต่ขาดการปฏิบัติ ติดตาม ประเมินผล อย่างต่อเนื่อง ทำให้ขาดองค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาอย่างได้ผล และอาจจะมีมายาคติ(myth.) 
เช่น การทะเลาะวิวาทเพราะมีหัวโจก นักเรียนมีนิสัยเกเร นักเรียนขาดการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว เพราะนักเรียนรักเพื่อน นักเรียนอ้างศักดิ์ศรี นักเรียนขาดระเบียบวินัย เด็กมีเวลาว่างมาก ปัญหาการทะเลาะวิวาทเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ และมักจะเห็นคำตอบของวิธีการแก้ไขสำเร็จรูป เช่น ต้องลงโทษให้เข็ดหลาบ ให้ใส่เครื่องแบบเหมือนกัน ให้ไปฝึกวินัยในค่ายทหาร ให้เรียนวิชาทหารมากขึ้น เอาหัวโจกไปเข้าค่ายร่วมกัน
หน่วยงานที่รับผิดชอบ ควรตระหนักถึงพฤติกรรมของวัยรุ่นที่ชอบใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา เพราะได้รับตัวอย่างที่ไม่ดีจากครอบครัวและคนรอบข้าง บางคนเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ทำร้ายร่างกายกันเป็นประจำจนกลายเป็นความเก็บกดและแสดงออกมาเหมือนกับที่เห็นตัวอย่าง วัยรุ่นบางคนใช้ความรุนแรงเพราะความเคยชินจากการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์ ซึ่งอยากลองกระทำเหมือนกับในเกมส์นั้นว่าจะมีความรู้สึกเช่นไร ปัญหาการใช้ความรุนแรงใช่ว่าจะมีเพียงกลุ่มวัยรุ่นที่กระทำ เด็กๆ หลายคนนิยมใช้ความรุนแรงมากกว่าใช้ความคิดเช่นเดียวกัน 
โดยหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้แก่
1. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2. กระทรวงศึกษาธิการ  กระทรวงศึกษาธิการควรกำหนดมาตรการป้องกันที่เป็นรูปธรรม และมีผลปฎิบัติอย่างขัดเจนและต่อเนื่องจริงจัง ไม่แก้ปัญหาแบบวัวหายล้อมคอก สถาบันการศึกษาหรือกลุ่มวิชาต้องส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างจิตสำนึกการรู้รักสามัคคี สร้างภูมิคุ้มกันตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ลงโทษนักศึกษาและสถาบันการศึกษาอย่างเด็ดขาด นำนักศึกษากลุ่มเสี่ยงเข้ารับการบำบัดสร้างเสริมกิจกรรมโดยใช้หลักธรรม คำสอนของศาสนา และผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบ เป็นต้น
3. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
4. สถาบันการศึกษา  สถานศึกษาต้องให้ความร่วมมือเท่าที่ควร การให้การสนับสนุนและเห็นความสำคัญของปัญหาของผู้บริหาร ในการที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจค้นอาวุธในสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นการลดและป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาท
5. สํานักงานตํารวจแห่งชาติ
มาตรการสำคัญ คือการจะร่วมกับทางสถาบัน นำนักศึกษาที่เป็นหัวโจกมาละลายพฤติกรรม พร้อมระบุสาเหตุหลักที่เด็กทะเลาะวิวาทกันรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากสถานศึกษาไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ในการที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจค้นอาวุธในสถาบันการศึกษา เพื่อเป็นการลดและป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาท  ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสถานศึกษา และตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบของตน คอยสอดส่องดูแลกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา เพื่อหาทางแก้ไขและลดปัญหาการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มเด็กวัยรุ่น ทั้งการขอความร่วมมือจากทางผุ้ปกครองคอดสอดส่งอดูแลบุตรหลานของตนไม่ให้เข้าไปอยุ่กับกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำหนดแผนป้องกัน และระงับเหตุนักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยสำรวจและจัดทำข้อมูลสถานศึกษาที่มีนักเรียนก่อเหตุบ่อยครั้ง หรือกลุ่มนักเรียนที่มีแนวโน้มจะกระทำผิด สถานที่ที่จะกระทำผิด โดยให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงาน ระหว่างสถานศึกษากับตำรวจ เฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมนักเรียนใน และนอกสถานศึกษา กวดขันสถานบันเทิงซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุม จู่โจมตรวจค้นสถานศึกษาหรือสถานที่ข้างเคียงซึ่งใช้ซุกซ่อนอาวุธ จัดกิจกรรมละลายพฤติกรรมในค่ายทหาร
6. สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ

ที่มา https://www.l3nr.org/posts/336350

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น